ผมชอบประโยคหนึ่งในหนังสือ What I Learned Losing a Million Dollars ของ Jim Paul และ Brenda Moynihan มากๆเลยที่ว่า
"There are two kinds of people in the world : Smart people and Wise people. Smart people learn from their mistakes and wise people learn from somebody else's mistake."
สาระสำคัญที่ผมต้องการจะสื่อคือ "การเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่นเป็นการกระทำที่ฉลาดกว่าการที่ต้องมาทดลองถูกผิดด้วยตัวเองไปเสียทุกเรื่อง"
เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายปีผมได้เรียนรู้ว่า “การเรียนรู้จาก Believable People (คนที่น่าเชื่อถือ) และ มีประสบการณ์มากกว่าในเรื่องที่ตัวเราเองนั้นกำลังศึกษาอยู่ ช่วยทำให้เรามี Learning curves ที่ดี และ ก้าวไปข้างหน้าได้รวดเร็วกว่าการจมอยู่กับ EGO ของตัวเอง”
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ผมตัดสินใจมานั่งเขียนบทความนี้ "เพื่อแนะนำแนวทางการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวไปสู่การเป็นเทรดเดอร์ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างสม่ำเสมอ" โดยกลั่นกรองออกมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผ่านมาว่า "ควรเรียนรู้อะไรบ้าง?"
เพื่อต้องการให้เพื่อนๆที่มีโอกาสผ่านเข้ามาอ่านบทความนี้ได้เห็นภาพรวมของแนวทางที่ควรจะศึกษาและพัฒนาตัวเองไปในทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น จะได้ไม่เสียเวลาศึกษาแบบกระจัดกระจายไปทุกเรื่องโดยไม่มีทิศทางหรือแนวทางที่ชัดเจน เพราะ ความไม่รู้และไม่มีแนวทางในการพัฒนาตัวเอง
คุณสามารถดูการบรรยายเรื่อง "แนะนำแนวทางการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ฉบับปรับปรุงล่าสุด" ได้ที่นี่ : รออัพเดท
แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปสู่เนื้อหาเหล่านั้น ผมอยากให้คุณตอบคำถามข้อนี้ด้วยความซื่อสัตย์ คือ
(Why?) ทำไมคุณถึงอยากเข้ามาเทรดในตลาด Forex หรืออยากเป็น Trader เหตุผลที่แท้จริงเหล่านั้นคืออะไร?
ลองใช้เวลาสัก 5 นาทีตอนนี้เขียนมันออกมาสัก 3-5 ข้อ แน่นอนล่ะ! คำตอบ 1 ใน 3-5 ข้อนั้น ผมมั่นใจว่าส่วนใหญ่คงตอบออกมาในเรื่องของรายได้แน่นอน การที่เราจะไปมองเรื่องตัวเงินที่จะได้เป็นหลักมันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่คำถามที่สำคัญมากกว่านั้น คือ(How?) เราจะทำแบบนั้นได้อย่างไร?
ซึ่งคำว่า How? ของแต่ละคนไม่เหมือนกันแน่นอนเพราะมันจะเป็นสิ่งที่แปรผันตรงกับความต้องการของคนๆนั้น ถ้าเกิดว่า How? ของเราตรงกันว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะ "ก้าวไปสู่เส้นทางของการเป็นเทรดเดอร์ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างสม่ำเสมอ" ต้องศึกษาอะไรและต้องฝึกฝนอย่างไร
แหล่งข้อมูลการเรียนรู้ที่ผมทำไว้ต่อไปนี้หวังว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกคนที่ได้ผ่านมาอ่านบทความนี้ครับ
กระบวนการในการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเอง
ในเรื่องของการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองผมแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ
(1) ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพ Trader
(2) ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับตลาด Forex และ พื้นฐานการเทรด
(3) กระบวนการเทรด (Trading Processes)
(1) ความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพ Trader
อาชีพเทรดเดอร์นั้นก็เหมือนกับวิชาชีพชั้นสูงอื่นๆที่ต้องผ่านการศึกษาเรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานที่เฉพาะเจาะจง ค้นหาไอเดียต่อยอดทางความคิด และ ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักกว่าจะก้าวไปสู่การเป็นเทรดเดอร์ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างสม่ำเสมอได้
แน่นอนว่ามันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาผ่านการทดลองผิดถูก เรียนรู้จากความล้มเหลว รับมือกับความเจ็บปวด มีความอดทน และไม่สามารถสำเร็จได้อย่างรวดเร็วภายในชั่วข้ามคืน มันไม่ได้เหมือนภาพมายาบนโลกโซเชี่ยลอย่างที่เราเห็นใน TikTok หรือ Facebook หรอกครับ
อย่าไปหลงระเริงกับคำโฆษณาชวนเชื่อที่ว่า "งานสบาย ทำที่ไหนก็ได้ กำไรเร็ว รวยเร็ว ปล่อยให้เงินทำงานแทนเราแล้วออกไปใช้ชีวิตซะ" อย่าไปติดกับดักกับคำว่า “สบายและรวดเร็ว” และ คำว่ารวดเร็วที่ดีที่สุด คือ การค่อยเป็นค่อยไปแต่สม่ำเสมอ
เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพเทรดเดอร์ว่าจริงๆแล้วคืออะไรและจะได้ไม่เข้าใจแบบผิดๆ ผมขอแนะนำให้ดู Playlist เรื่องมือใหม่หัดเทรดของคุณ Chaipat Cwayinvestment ให้จบ => มือใหม่หัดเทรด
และเพื่อให้เห็นแนวทางของการหาไอเดียเพื่อต่อยอดทางความคิดจากบุคคลที่น่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ตรง ผมขอแนะนำให้ดู "โทรจัน นิวยอร์ค เทรดเดอร์ 2016" ทั้ง 10 วันของพี่ต้าน Mudley Group ซึ่งเป็น Hedge Fund Manager ที่ได้แบ่งปันความรู้ไว้ใน Youtube (ตั้งแต่ปี 2016 ตอนนี้ 2021 ไม่รู้ว่าความรู้ตอนนี้ไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว) จะช่วยทำให้เห็นว่า Professional Trader เขามีความคิดอย่างไรและทำอะไรบ้าง => โทรจัน นิวยอร์ค เทรดเดอร์ 2016
(2) ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับตลาด Forex และ พื้นฐานการเทรด
ไม่ว่าเราจะเข้าไปเทรดตลาดไหนก็ตามไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น TFEX Commodity Cryptocurrency และ Forex เอง ความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับตลาดนั้นๆห้ามข้ามโดยเด็ดขาด เพราะ "การเข้าใจความรู้พื้นฐานเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถต่อยอดทางความคิดได้"
สำหรับความรู้พื้นฐานของตลาด Forex และ พื้นฐานการเทรด ผมแนะนำคอร์สฟรีคอร์สนี้เรียนจบแค่ที่นี่ที่เดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เข้าใจเกี่ยวกับการเทรดในตลาด Forex ทั้งหมดและควรทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง เพราะการมีพื้นฐานความรู้ที่ดีจะช่วยทำให้เราสามารถต่อยอดทางความคิดได้และทำให้เราไม่หลงไปเป็นเหยื่อเพราะความไม่รู้
ความรู้พื้นฐานที่ควรจะต้องรู้ เช่น
Forex คืออะไร มีการแลกเปลี่ยนการซื้อขายค่าเงินกันอย่างไร และคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะศึกษาให้ดีว่า Leverage คืออะไร
ผู้เล่นในตลาดมีใครบ้าง และ ใครคือ Market Maker ในตลาด Forex
ช่วงเวลาเปิดปิดของตลาดค่าเงิน มีกี่ Session เวลาเท่าไร และแต่ละ Session มีความสำคัญอย่างไร
การฝึกใช้โปรแกรมเทรด เช่น MT4 MT5 Ctrader และ Tradingview เป็นต้น
การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical analysis) คืออะไร การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundament analysis) คืออะไร และ การวิเคราะห์อารมณ์ความรู้สึก (Sentiment analysis) คืออะไร
(3) กระบวนการเทรด (Trading Processes)
องค์ประกอบสำคัญในการเทรดเพื่อทำให้เรามีผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ คือ กระบวนการเทรด มีอยู่ 3 หัวข้อ คือ
(A) เรื่อง Mindset และ จิตวิทยา
(B) เรื่อง ระบบเทรด (Trading system)
(C) เรื่อง การบริหารเงินและความเสี่ยง (Risk and money management)
(A) Mindset และ จิตวิทยา
Mindset ส่วนตัว => หัวใจสำคัญ คือ ทำยังไงให้เราพัฒนาตัวเองอยู่สม่ำเสมอ เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ อ่านหนังสือ และเสพสื่อที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เป็นต้น
Mindset ของ Trader => Mindset ของเทรดเดอร์ 3 ข้อที่ควรระลึกเอาไว้เสมอ
จิตวิทยา => จิตวิทยาในการเทรด
(B) ระบบเทรด (Trading system)
นี่คือสิ่งที่มือใหม่ตามหาหรือวิ่งเข้าหาเลยเมื่อเข้ามาเทรดในตลาด จะมีระบบเทรดไหนบ้างนะที่สามารถ Predict ตลาดดูกราฟได้แม่นยำและมี Win rate สูงๆ ทำยังไงถึงจะเทรดเป็น
ถ้าให้อธิบายถึงระบบเทรด (Trading system, Edge) แบบให้เข้าใจกันเองง่ายๆมันก็คือ กระบวนการที่เราใช้ในการตัดสินใจเมื่อเข้าเทรดนั่นเอง ถ้ากราฟตรงกับเงื่อนไขตามที่เรากำหนดไว้หรือที่ผมเรียกว่า One Good Trade ก็ตัดสินใจเข้าซื้อขาย การมีระบบเทรดที่ดีจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้เรามีความสามารถในการตัดสินใจซื้อขายในตลาดได้อย่างชัดเจน สม่ำเสมอ และเก็บสถิติเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดได้
โดยส่วนใหญ่แล้วเทรดเดอร์รายย่อยอย่างเราการวิเคราะห์กราฟที่ใช้กันโดยทั่วไปก็จะเป็นการวิเคราะห์แบบเชิงเทคนิค (Technical analysis, TA) ซึ่งการวิเคราะห์กราฟเชิงเทคนิคมีอยู่หลากหลายมาก ยกตัวอย่างเช่น
การวิเคราะห์กราฟโดยใช้ Harmonic Pattern
การวิเคราะห์กราฟโดยใช้ Supply and Demand Zone
การวิเคราะห์กราฟโดยใช้ Chart Pattern & Price action
การวิเคราะห์กราฟโดยใช้ Wyckoff
การวิเคราะห์กราฟโดยใช้ Elliott wave
การวิเคราะห์กราฟโดยใช้แนวรับแนวต้าน เทรนไลน์ เป็นต้น
การวิเคราะห์กราฟโดยใช้ Smart Money Concept
การวิเคราะห์กราฟโดยใช้ ICT Concept => "Technical Analysis โดย TSM"
ผมคงให้คำตอบไม่ได้ว่าเทคนิคไหนใช้แล้วดีที่สุดเพราะถ้ามองในเฉพาะมุมมองการทำกำไรมันก็ใช้ได้เหมือนกันถ้าเราเข้าใจและมีประสบการณ์กับมันจริงๆ แต่ถ้าจะศึกษาหรืออยากเข้าใจและค้นหาความจริงที่เกิดในตลาดอาจจะยังไม่เพียงพอ
และยังมีวีธีการเทรดอื่นๆอีกที่นอกเหนือจากการใช้ Technical analysis ขอแนะนำแบบนี้ละกันให้ไปวิเคราะห์ตัวเองและค้นพบให้เจอ ว่า
(1) ระบบเทรดของเราเป็นแบบไหน ใช้เทคนิคอะไร มีกฎเกณฑ์อย่างไร ใช้อะไรเป็นตัวตัดสินใจว่า : จุดเข้าเทรด (Entry) อยู่ตรงไหน, จุดตัดขาดทุน (SL) อยู่ตรงไหน, จุดขายทำกำไร (Exit, TP) อยู่ตรงไหน, และตัดสินใจเข้าเทรดในกรอบเวลาเท่าไร (Timeframe : Day, H4, H1, M30, M15, M5) เป็นต้น
(2) สไตล์การเทรดที่เหมาะสมกับเราคือสไตล์แบบไหน เช่น Day Trader เทรดจบภายใน 1 วัน , Swing Trader ถือ 2-3 วันจนถึงสัปดาห์, Position Trader ถือยาวเป็นเดือนหรือรายไตรมาส และอื่นๆ เป็นต้น
การใช้ Technical analysis มันไม่ใช่เครื่องมือขั้นเทพที่จะช่วยทำให้เราสามารถ Predict ทิศทางตลาดได้อย่างแม่นยำ แต่มันสามารถช่วยทำให้เราจับ Flow ของตลาดและจับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับพฤติกรรมราคาได้ และที่สำคัญเราต้องมีความเข้าใจกับเครื่องมือ หรือ Indicator ที่เราใช้ ว่าเขาสร้างเครื่องมือนี้มาเพื่ออะไรและควรรู้ว่าจุดอ่อนของมันคืออะไรด้วยเช่นกัน
พออ่านมาถึงตรงนี้ก็จะรู้สึกว่าสิ่งที่เป็นปัญหาที่สุด ก็คือ "เราจะใช้เทคนิคไหนดีหว่า" นี่แหละจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมช่วงเริ่มต้นในการเทรดเราจึงทุ่มเทไปกับการค้นหาระบบเทรดและทดลองผิดถูกกับมัน หรือ หลายคนถึงยอมเสียเงินไปซื้อคอร์สสอนเทรดกันเลยทีเดียว
ส่วนตัวมีมุมมองว่า "การเทรดเป็นเรื่องของความรู้" เราจำเป็นต้องมีความรู้ก่อนถึงจะมีไอเดียไปต่อยอดทางความคิด การหาความรู้และทดลองสังเกตดูในกราฟเป็นกระบวนการที่เรียนรู้ไปพร้อมๆกันได้ เพราะฉะนั้นการเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ดีและน่าเชื่อถือก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญให้เราพัฒนาตัวเองไปถูกทาง
ถ้าเราตั้งคำถามกับตัวเองด้วยประเด็นที่ว่า "มีอะไรบ้างที่เรายังไม่รู้? ความไม่รู้นั้นจะเป็นประตูบานใหญ่ที่นำทางไปพบกับแหล่งเรียนรู้ดีๆอีกมากมายเพื่อมาต่อยอดทางความคิด ยิ่งรู้มากขึ้นยิ่งเข้าใจว่าความรู้หลายอย่างมันไม่สามารถเป็นสาธารณะได้ เลยทำให้เข้าใจว่า คนที่เข้าถึงความเป็นจริงมากกว่า คือ คนที่ได้เปรียบมากจริงๆ"
(C) การบริหารเงินและความเสี่ยง (Risk and money management)
ไม่ว่าจะมีระบบเทรดดีมากแค่ไหน สิ่งที่จะทำให้เรารอดจากความผันผวนในตลาดหรือถ้าตลาดไม่เป็นไปตามระบบเทรดของเราก็คือ "การบริหารเงินและความเสี่ยง" ซึ่งการโฟกัสไปที่การเรียนรู้ว่าจะ Loss อย่างไรให้เราไม่หายไปจากเกมส์และไม่ล้างพอร์ตนั้น สำคัญมากกว่าวิธีการทำเงินในตลาดมากมายนัก
ระบบเทรดธรรมดาๆที่ใช้งานได้ดีและถูกควบคุมความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอได้ เพราะฉะนั้นในการตัดสินใจเทรดแต่ละครั้งเราจำเป็นต้องคำนวณความเสี่ยงที่รับได้ก่อนเสมอที่จะ Take action อะไรสักอย่างในตลาด แหล่งข้อมูลดีๆเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงที่อยากแนะนำเพิ่มเติม
สำหรับทั้ง 3 กระบวนการเทรดนี้ เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองว่า เมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่เรามีระบบการเทรดของตัวเองที่ชัดเจนและเหมาะสมกับตัวเองแล้ว สิ่งที่จะทำให้เราอยู่รอดในตลาดจริงๆ คือ "Mindset&จิตวิทยา และ การบริหารเงินที่ดี"
สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมด Base on จากประสบการณ์ส่วนตัว ถ้าอยากได้แนวทางพัฒนาตัวเองสำหรับมือใหม่ที่นอกเหนือจากคำแนะนำเหล่านี้ งั้นผมขอแนะนำหนังสือของคุณ Steve Ward เล่มนี้ครับ
และนี่คือทั้งหมดที่ผมอยากจะเขียนแนะนำแนวทางการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวไปสู่การเป็น Forex Trader สำหรับมือใหม่โดยเฉพาะ Serious Trader ถ้าได้มีโอกาสผ่านมาอ่านบทความนี้หวังว่าจะได้มองเห็นภาพรวมของสิ่งที่ควรจะศึกษาแล้วนำไปต่อยอดเพิ่มเติมตามความสนใจของตัวเองต่อไปนะครับ 😄😀😊
หวังว่าบทความนี้ TSM จะได้เรียนรู้ไอเดียเพิ่มเติมแล้วนำไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้ ขอให้มีความสุข และ สนุกกับการเรียนรู้นะครับ 😄
📚 สั่งซื้อ “Ebook เทรดเลี้ยงชีพในตลาด FX โดยใช้ ICT Concept ตามสไตล์ Trader Sai Mour” => https://www.buymeacoffee.com/tradersaimour/ebook-fx-ict-concept-tsm
📚 กลับสู่หน้า "สารบัญการเรียนรู้ทั้งหมด" | กลับสู่หน้า "หมวดหมู่บทความที่ (1)" | กลับสู่ "หน้าหลัก"